🌷*แสดงให้เห็นถึงเหตุผลหรือสาเหตุในประโยคที่ 1 ซึ่งทำให้เกิดผลในระโยคที่สอง
โดยมากประโยคแรกเป็นสาเหตุของประโยคหลัง♥** มีความหมายว่า “เพราะว่า...จึง, เพราะว่า...ก็เลย, ดังนั้นจึง”
🌷*ใช้ในการเชื่อมลำดับเหตุการณ์ของการกระทำซึ่งการกระทำแรกจะอยู่ประโยคแรกและการกระทำต่อไปอยู่ที่ประโยคที่
2 ซึ่ง หรือ เชื่อมระหว่างประโยคที่แสดงการที่คำพูดในประโยคหน้าและประโยคหลังเกิดขึ้นตามลำดับ♥** มีความหมายว่า “แล้วก็, ก็..เลย, เลย...จึง, แล้ว..., และ..”
🌷*และยังนำมาเชื่อมระหว่างประโยคที่แสดงวิธีการหรือวิธีทำ มีความหมายว่า "ด้วยการ..., โดยการ..."
🌷*สามารถใช้~그래서แทนได้
🌷*ข้างหน้า~아/어/여서ไม่สามารถใช้กับรูปอดีตกาล(~았/었/였)และอนาคต(~겠)ได้ * แต่สามารถลงท้ายประโยคได้
เช่น
어제 아파서 집에 쉬었어요. (ถูก)
(ออเจ อาพาซอ ชิบเบ ชวีอ็อดซอโย)
(ออเจ อาพาซอ ชิบเบ ชวีอ็อดซอโย)
어제 아팠어서 집에 쉬었어요. (ผิด)
(ออเจ อาพัดซอซอ ชิบเบ ชวีอ็อดซอโย)
🌷*รูปแบบนี้สามารถใช้รูปสุภาพลงท้ายประโยคได้
(ออเจ อาพัดซอซอ ชิบเบ ชวีอ็อดซอโย)
🌷*ไม่สามารถลงท้ายด้วยประโยคชักชวน, แนะนำ (V~을/ㄹ 까요?), V~ㅂ/읍시다, V~자, คำสั่ง, ขอร้อง(V~(으)십시오/V~(으)세요)
🌷* ถ้าประโยคปฎิเสธมักใช้รูปร่วมกับ ~못(ไม่สามารถ..ได้), ~/ㄹ 수 없다(ไม่สามารถ..ได้)🌷*รูปแบบนี้สามารถใช้รูปสุภาพลงท้ายประโยคได้
➽ คำกริยาที่ลงท้ายด้วยสระㅗ,ㅏใช้~아서
➽ คำกริยาที่ลงท้ายด้วยสระนอกเหนือจากㅗ,ㅏใช้~어서
➽ คำกริยาที่ลงท้ายด้วย하다ใช้ ~해서
(**การผันสระเหมือนกับไวยากรณ์** ~아/어/여 요)
(🌼**ควรระวัง**) ~불규칙동사 (คำกริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎ)
🌼~ㅂ 불규칙 🌼
⧪คำกริยาเมื่อตัด
다 แล้วหน้า 다 สะกดด้วยㅂเมื่อเจอกับ~아/어/여서ให้เปลี่ยน ㅂà워서แต่ก็ไม่เสมอไปที่เปลี่ยนเป็น워서มีคำกริยาบางคำที่ㅂà와서ก็มี เช่น 돕다à도와서และก็มีคำกริยาบางคำที่คงㅂไว้ เช่น
➽ ตัวอย่างคำกริยาที่ต้องเปลี่ยนㅂà우 เช่น
คำศัพท์
|
~아/어/여서
|
더럽다(ทอร็อบตา) : สกปรก
|
더러워서
|
돕다(ทบตา) : ช่วยเหลือ
|
도와서
|
무겁다(มูก็อบตา) : หนัก
|
무거워서
|
맵다(เม็บตา) : เผ็ด
|
매워서
|
아깝다(อากับตา) : เสียดาย
|
아까워서
|
➽ ตัวอย่างคำกริยาที่ไม่ต้องเปลี่ยน ㅂà우เช่น
คำศัพท์
|
~아/어/여서
|
뽑다(ปบตา) : ถอน, เลือก
|
뽑아서
|
씹다(ชิบตา) : เคี้ยว
|
씹어서
|
입다(อิบตา) : สวม, ใส่
|
입어서
|
잡다(ชับตา) : จับ
|
잡아서
|
좁다(ชบตา) : แคบ
|
좁아서(โชบาซอ)
|
🌼~ㄷ 불규칙 🌼
⧪คำกริยาเมื่อตัด
다 แล้วหน้า 다 สะกดด้วยㄷเมื่อเจอกับ~아/어/여서 ให้เปลี่ยน ㄷàㄹแล้วตามด้วย~아/어서 (ดูการผันคำกริยาตามกฏของ~아/어요) แต่ก็มีคำกริยาบางคำที่คงㄷไว้
***
ไม่มีกฎตายตัวสำหรับกริยาที่ลงท้ายด้วยตัวสะกด ㄷต้องจำเอาเท่านั้น.
➽ ตัวอย่างคำกริยาที่เปลี่ยนㄷàㄹเช่น
คำศัพท์
|
~아/어/여서
|
걷다(ค็อดตา) : เดิน
|
걸어서
|
듣다(ทึดตา) : ฟัง
|
들어서
|
묻다(มุดตา) : ถาม
|
물어서
|
➽ ตัวอย่างคำกริยาที่ไม่ต้องเปลี่ยนㄷàㄹ เช่น
คำศัพท์
|
~아/어/여서
|
닫다(ทัดตา) : ปิด
|
닫아서
|
믿다(มิดตา) : เชื่อ
|
믿어서
|
얻다(อ็อดตา) : ได้,ได้รับ
|
얻어서
|
🌼~ㄹ 불규칙 🌼
⧪คำกริยาเมื่อตัด
다 แล้วหน้า 다 สะกดด้วยㄹเมื่อเจอกับ ~아/어/여서.ให้ตามด้วย아/어서ได้เลย (ดูการผันคำกริยาตามกฏของ~아/어요)
➽ ตัวอย่างคำกริยาที่สะกดด้วยㄹ เช่น
คำศัพท์
|
~아/어/여서
|
걸다(คอลดา) : แขวน
|
걸어서
|
들다(ทึลดา) : เข้าไป,
ยก
|
들어서
|
멀다(มอลดา) : ไกล
|
멀어서
|
살다(ซัลดา) : อาศัย, มีชีวิต
|
살아서
|
팔다(พัลดา) : ขาย
|
팔아서
|
🌼~으 불규칙
⧪คำกริยาส่วนใหญ่เมื่อตัด다ทิ้งแล้วหน้า 다ลงท้ายสระ 으 (แต่ไม่ใช่ 르) เมื่อเจอกับ ~아/어/여 서ถ้าข้างหน้า 으 เป็นสระ ㅏ,ㅗ ให้เปลี่ยน 으à아แล้วตามด้วย ~서 เช่น 아프다à 아파서
⧪ แต่ถ้าข้างหน้า 으 เป็นสระอื่นๆนอกเหนือจากㅏ,ㅗ ให้เปลี่ยน
으 à 어แล้วตามด้วย
~서 เช่น 예쁘다(สวย)à예뻐서
➽ ตัวอย่างคำกริยาที่ลงท้ายด้วยสระ으 เช่น
คำศัพท์
|
~아/어/여서
|
기쁘다(คีปือดา) : ดีใจ
|
기뻐서
|
나쁘다(นาปือดา) : เลว,ไม่ดี
|
나빠서
|
바쁘다(พาปือดา) : ยุ่ง,วุ่นวาย
|
바빠서
|
아프다(อาพือดา) : เจ็บ, ปวด, ป่วย,ไม่สบาย
|
아파서
|
크다(คือดา) : ใหญ่
|
커서
|
🌼~르 불규칙 🌼
⧪คำกริยาเมื่อตัด다ทิ้ง แล้วหน้า 다 เป็น 르เมื่อเจอกับ ~아/어/여 서ถ้าข้างหน้า르เป็นสระ ㅏ,ㅗให้ เปลี่ยน 르à라แล้วเพิ่ม ㄹเป็นตัวสะกดที่อยู่ข้างหน้า 르แล้วตามด้วย ~서 เช่น
⧪คำกริยาเมื่อตัด다ทิ้ง แล้วหน้า 다 เป็น 르เมื่อเจอกับ ~아/어/여 서ถ้าข้างหน้า르เป็นสระ ㅏ,ㅗให้ เปลี่ยน 르à라แล้วเพิ่ม ㄹเป็นตัวสะกดที่อยู่ข้างหน้า 르แล้วตามด้วย ~서 เช่น
모르다(ไม่รู้, ไม่เข้าใจ) à 몰라서
빠르다(เร็ว) à 빨라서
⧪แต่ ถ้าข้างหน้า 르มีสระอื่นๆนอกเหนือㅏ,ㅗให้เป็นเปลี่ยน 르à러แล้วเพิ่ม ㄹเป็นตัวสะกดที่อยู่ข้างหน้า 르แล้วตามด้วย ~서เช่น
⧪แต่ ถ้าข้างหน้า 르มีสระอื่นๆนอกเหนือㅏ,ㅗให้เป็นเปลี่ยน 르à러แล้วเพิ่ม ㄹเป็นตัวสะกดที่อยู่ข้างหน้า 르แล้วตามด้วย ~서เช่น
부르다(อิ่ม, เรียก, ร้อง ) à 불러서
이르다(ถึง, เร็วกว่า, ยังไม่ถึงเวลา)à 일러서
이르다(ถึง, เร็วกว่า, ยังไม่ถึงเวลา)à 일러서
➽ ตัวอย่างคำที่ลงท้ายด้วย 르 เช่น
คำศัพท์
|
~아/어/여서
|
고르다(โครือดา) : เลือก
|
골라서
|
다르다(ทารือดา) : ต่างกัน,อื่น
|
달라서
|
부르다(พูรือดา) : อิ่ม, เรียก, ร้อง
|
불러서
|
빠르다(ปารือดา) : เร็ว
|
빨라서
|
오르다(โอรือดา) : ขึ้น
|
올라서
|
🌼~ㅅ불규칙 🌼
⧪คำกริยาเมื่อตัด
다 แล้วหน้า 다 สะกดด้วยㅅเมื่อเจอกับ ~아/어/여서ให้ตัดㅅทิ้งก่อน แล้วตามด้วย아/어서(ให้ดูตามกฏของ~아/어요) แต่ก็มีคำกริยาบางคำให้คงㅅไว้
➽ ตัวอย่างคำกริยาที่ต้องตัดㅅทิ้ง เช่น
คำศัพท์
|
~아/어/여서
|
긋다(คึดตา) : ขีด
|
그어서(คือออซอ)
|
낫다(นัดตา) : หายดี,ดีกว่า
|
나아서
|
붓다(พุดตา) : เท,ริน,บวม
|
부어서
|
잇다(อิดตา) : เชื่อม,เชื่อมต่อ
|
이어서
|
짓다(ชิดตา) : สร้าง,ก่อสร้าง
|
지어서
|
➽ ตัวอย่างคำกริยาที่คงㅅไว้ เช่น
คำศัพท์
|
~아/어/여서
|
벗다(พ็อดตา) : ถอด
|
벗어서
|
빼앗다(เปอัดตา) : กระชาก
|
빼앗아서
|
솟다(ซดตา) : พุ่ง
|
솟아서
|
씻다(ชิดตา) : ล้าง
|
씻어서
|
웃다(อุดตา) : หัวเราะ, ยิ้ม
|
웃어서
|
🌼~ㅎ 불규 🌼
⧪คำกริยาเมื่อตัด
다 แล้วหน้า 다 สะกดด้วยㅎเมื่อเจอกับ~아/어/여서ให้ตัดㅎทิ้งก่อน แล้วเปลี่ยนสระที่ㅎสะกดเป็นสระㅐให้ดูตามกฏของ~아/어요) และตามด้วย~서แต่ก็มีคำกริยาบางคำให้คงㅎไว้
เช่น 렇다(อย่างนั้น) à그래서
어떻다(อย่างไร)à 어때서
어떻다(อย่างไร)à 어때서
➽ คำที่ต้องเปลี่ยน ㅎ เช่น
คำศัพท์
|
~아/어/여서
|
그렇다(คือร็อดทา) : อย่างนั้น
|
그래서(คือเรซอ)
|
어떻다(ออต็อดทา) : อย่างไร
|
어때서
|
이렇다(อีร็อดทา) : อย่างนี้
|
이래서
|
저렇다(ชอร็อดทา) :อย่างโน้น
|
저래서
|
파랗다(พารัดทา) : เป็นสีฟ้า
|
파래서
|
➽ ตัวอย่างคำกริยาที่คงㅎไว้ เช่น
คำศัพท์
|
~아/어/여서
|
괜찮다(คเวนชันทา): ไม่เป็นไร
|
괜찮아서(คเวนชานาซอ)
|
많다(มันทา) : มาก
|
많아서
|
좋다(ชดทา) : ดี,ชอบ
|
좋아서
|
🌷*ใช้ในการเชื่อมลำดับเหตุการณ์ของการกระทำซึ่งการกระทำแรกจะอยู่ประโยคแรกและการกระทำต่อไปอยู่ที่ประโยคที่
2ซึ่ง♥** มีความหมายว่า “แล้วก็, ก็..เลย, เลย...,
จึง”
화장품을 사서 친구한테 줄 거예요.
ซื้อเครื่องสำอางแล้วก็จะให้เพื่อนค่ะ.
ซื้อเครื่องสำอางแล้วก็จะให้เพื่อนค่ะ.
서점에 가서 사전을 살 거예요.
ไปที่ร้านขายหนังสือแล้วก็จะซื้อพจนานุกรมค่ะ.
ไปที่ร้านขายหนังสือแล้วก็จะซื้อพจนานุกรมค่ะ.
오늘은 휴일이어서 입장료를 내지 않아도 됩니다.
วันนี้เป็นวันหยุดจึงไม่ต้องจ่ายค่าเข้าค่ะ.
วันนี้เป็นวันหยุดจึงไม่ต้องจ่ายค่าเข้าค่ะ.
늦은 밤 이여서 행인이 별로 없어요.
ดึกแล้วก็เลยไม่ค่อยมีคนเดินผ่านค่ะ.
우리 집은 남향이어서 시원해요.
บ้านพวกเราอยู่ทางทิศใต้เลยอากาศเย็นค่ะ.
🌼***화장품(เครื่องสำอาง), 서점(ร้านขายหนังสือ), 입장료(ค่าเข้า, ค่าผ่านประตู),
행인(คนเดินผ่าน,คนสัญจร),
별로없다(ไม่ค่อยมี), 남향(ทางทิศใต้), 시원하다((อากาศ)เย็น, สดชื่น)
.........................🌼🍄
🌷*แสดงให้เห็นถึงเหตุผลหรือสาเหตุในประโยคที่หนึ่ง ซึ่งทำให้เกิดผลในประโยคที่สอง โดยมากประโยคแรกเป็นสาเหตุของประโยคหลังซึ่ง♥** มีความหมายว่า “เพราะว่า..จึง, เพราะว่า...ก็เลย”
.........................🌼🍄
🌷*แสดงให้เห็นถึงเหตุผลหรือสาเหตุในประโยคที่หนึ่ง ซึ่งทำให้เกิดผลในประโยคที่สอง โดยมากประโยคแรกเป็นสาเหตุของประโยคหลังซึ่ง♥** มีความหมายว่า “เพราะว่า..จึง, เพราะว่า...ก็เลย”
쏨땀은 매워서 못 먹겠어요.
เพราะว่าส้มตำเผ็ดก็เลยกินไม่ได้ค่ะ.
어제 바빠서 전화를 못 했어요.
เพราะว่าเมื่อวานยุ่งก็เลยไม่ได้โทรหาค่ะ.
เพราะว่าเมื่อวานยุ่งก็เลยไม่ได้โทรหาค่ะ.
배가 고파서 잠을 잘 수가 없어요.
돈이 적어서 사먹을 수 가 없어요.
เพราะว่าเงินน้อยจึงไม่สามารถซื้อได้เลยค่ะ.
너무 어려서 경험이 없어요.
เพราะว่ายังเด็กเกินไปจึงไม่มีประสบการณ์ค่ะ.
เพราะว่ายังเด็กเกินไปจึงไม่มีประสบการณ์ค่ะ.
(เครดิตมาจากหนังสือ "ไวยากรณ์ดีเกาหลี 1")💕
สั่งซื้อหนังสือ “ไวยากรณ์ดีเกาหลี 1”
ได้ตามที่อยู่ข้างบนเวบไซได้ค่ะ
*****♥♡♠
*💦❤🍅⤵️⤵️
♥ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม~SolClub รับสอนภาษาเกาหลีทุกระดับ♥
팔로우 해주셔서 대단히 감사합니다^^
*****♡
🌼🍄 หากท่านไหนอยากเรียนภาษาเกาหลีอื่นๆ , อยากเรียนไวยากรณ์ระดับ1-6, อยากติวข้อสอบTopik, อยากเรียนภาษาเกาหลีโดยทั่วไป, หรืออยากเพื่อเป็นล่ามศัลยกรรม, อยากเรียนสนทนาและอื่นๆเป็นต้น ทุกท่านสามารถเรียนออนไลน์ได้ไม่ว่าจะเรียนเดี่ยวตัวต่อตัว หรือเรียนเป็นกลุ่ม
♡
**♥"และหากท่านไหนไม่มีเวลาสามารถเรียนตามคลิปวิดีโอย้อนหลังได้ *"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเรียนภาษาเกาหลีได้เพียงแค่มีมือถือ
*****♡
*****♡🎀
📑สนใจดูรายละเอียดว่ามีคอร์สอะไรบ้างที่เปิดสอนได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
📌http://solclub.blogspot.com/2015/10/blog-post_5.html
*****♡
*****♡
🙇♀ดูรายละเอียดการเรียนภาษาเกาหลีตามคลิปวิดีโอย้อนหลังว่ามีคอร์สอะไรบ้างได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
♥https://solclub.blogspot.com/2020/02/blog-post.html
*****♥♡♠
🌷*และดูโปรโมชั่นสุดคุ้ม!! ไม่ว่าจะคอร์สเรียนไวยากรณ์ภาษาเกาหลีออนไลน์ หรือ หนังสือไวยากรณ์เกาหลี, หนังสือติวTOPIK I, TOPIK II ได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
♡https://solclub.blogspot.com/.../1topik-i-1-2-20-2500.html
****♥♡♠
💏⟴ใจสมัครเรียนหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยจ้า🔽
💬 http://solclub.blogspot.com/2015/10/blog-post_81.html
*****♡
*****♡.........................................................................................................................🌼
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น